ใบงาน.คอม ข่าวการศึกษา ได้นำรายละเอียดข่าวที่กำลังเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังครูเก่ง แฉจัดหนัก สอนแทบตาย แพ้คนทำเกรดปลอม กินเงินหลวงฟรี ยอมทิ้งบ้านลาออก สำหรับใครที่ติดตามประเด็นนี้อยู่ สามารถอ่านรายละเอียดความคืบหน้าด้านล่างได้เลยนะคะ
กลายเป็นกระแสขึ้นมาทันที กรณีคุณครูสาวรายหนึ่งยื่นใบลาออกจากข้าราชการ พร้อมระบุเหตุผลอย่างตรงไปตรงมาหลายประการ ทั้งเรื่องการให้ครูทำเอกสารประเมิน ประกัน และประกาศต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการสอน เสียแรง เปลืองเวลา และงบประมาณ ประกอบเรียนออนไลน์ที่ต้องอาศัยความพร้อมจากนักเรียนและผู้ปกครองด้วย จึงไม่สามารถสอนได้ผลสำเร็จ จึงขอลาออกให้คนที่เหมาะสมกว่ามาทำงานแทน
ล่าสุด วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ครูเก่ง กรวรรณ ซึ่งรับโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงเรื่องดังกล่าว ภายหลังโลกโซเชียลแชร์เรื่องราวออกไปจำนวนมาก
คนสอนจริง ๆ กับคนไม่ได้สอน แต่ส่งเอกสารปลอมครบ ทะเลาะกันเรื่องงาน คนไม่สอนยืมมือชาวบ้านมาข่มขู่จนอยู่ไม่ได้ ต้องทิ้งบ้านที่สร้างมากับมือ คนสอนอยากสวนคืนเพราะคู่กรณีรับเงินเดือนในตำแหน่งครูผู้สอน แต่ไม่เคยสอนเด็กได้จริง เอกสารที่ส่งครบ เกรดปลอม คะแนนปลอม เด็กไม่ได้หนังสือจริง ซึ่งถือว่ามีความผิด เก็บคลิป เก็บหลักฐานส่งไปให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเพื่อปรึกษาเรื่องร้องเรียนวินัย
คำตอบที่ได้ คือ ท่าน ๆ เหล่านั้นพากันคัดค้านไม่ให้ร้องวินัย ถือว่าเป็นการทะเลาะระหว่างเพื่อนร่วมงาน อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ อ้าว.. สรุปคนสอนจริงแพ้คนทำเอกสารปลอม ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นว่าระบบนี้ไม่ต้องการเรา แต่ต้องการคนทำเอกสารมากกว่า เขาถึงไม่ยอมให้คำปรึกษา ไม่ปกป้อง ปัจจุบันคนทำเกรดปลอมก็ยังลอยนวล รับเงินเดือนในตำแหน่งครูผู้สอน โดยไม่ถูกร้องวินัย ไม่มีใครลงโทษ
สอนแทบตาย แพ้คนทำเอกสารปลอม
เรื่องการประเมินวิทยฐานะด้วยเอกสาร ทำไมครูเก่งค้านหนักหนาก็เพราะมีครูส่วนหนึ่งเขียนเอกสารปลอมเพื่อให้ตัวเองได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น การตรวจประเมินจากเอกสารอย่างเดียว แน่ใจเหรอว่าเอกสารพวกนั้นทุกบรรทัดเป็นจริง ถ้าผลประเมินผ่าน คือ ผลประโยชน์ก้อนใหญ่รออยู่ข้างหน้า มีคนโลภคนไหนจะเขียนความจริงให้ตัวเองไม่ผ่านบ้าง
เคยไหมสอนไปสอนมา “อ้าว เจ้าเด็กนี่มันอ่อนขนาดนี้ เขาส่งขึ้นชั้นมาได้ยังไง” ต้องรื้อความรู้ระดับชั้นเก่ามาสอนให้เกือบหมด
เคยไหมทุ่มเทสอนแทบตาย กว่าเด็กจะอ่านได้ พอส่งขึ้นไปครูประจำชั้นใหม่ไม่ยอมสอนต่อ สุดท้ายเด็กแย่ลง ทั้ง ๆ ที่ส่งไปให้สภาพดี การที่เอาครูตั้งใจสอนกับคนปั่นเอกสารปลอมมาวัดค่าว่าเป็นคนทำงานเหมือนกัน มันใช่เหรอ ? ถ้าวัดเอาตามเนื้องานจริง ๆ ใครควรอยู่ ใครควรไป !
– ครูสังคม เงินเดือน 3 หมื่นกว่าบาท สอนเด็กออกมากินเหล้าในโรงเรียน โดดเรียนทุกวัน เกเร ก้าวร้าว ไร้มารยาทกับครูต่างถิ่น ถามจริง ๆ ถ้าประเมินที่ตัวเด็ก ครูคนนี้จะผ่านไหม ?
– ถ้าประเมินพัฒนาการเด็กจริง ๆ คนทำเกรดปลอม เอกสารปลอม จะผ่านครูผู้ช่วยได้กินเงินเดือนฟรีมา 4-5 ปีไหม ?
เมื่อหมดศรัทธาแล้ว ใครจะรั้งได้
ระบบประเมินที่เป็นอยู่ ยังเหลืออะไรให้ศรัทธาบ้าง นอกจากสร้างภาระงานให้คนตั้งใจสอน กับเปิดช่องให้คนไร้ความสามารถทำเอกสารปลอม เอาเงินเพิ่ม ทั้งที่ผลผลิตไร้คุณภาพ
วินัยข้าราชการครู เขียนไว้หรู ๆ แต่ลงโทษคนผิดไม่ได้ เหลืออะไรให้อยากอยู่ต่อ เลยเดินออกมาสวย ๆ เลย ตั้งหลักได้ก็ลาออก ไม่ต้องรอบำเหน็จบำนาญแล้ว ใครอยู่ได้ก็อยู่ไป หมดศรัทธาแล้วจริง ๆ ระบบแบบนี้ไม่ต้องการคนอย่างเรา
ส่วนใบลาออก ไม่ได้ทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่อยากเป็นกระบอกเสียงให้คนตั้งใจสอนที่ไม่ชอบเอกสารเกินเบอร์ แต่ใจยังสู้ให้อยู่ต่อไป
โดยจุดเริ่มต้นการลาออก ไม่ได้มาจากโรงเรียนที่อยู่ปัจจุบัน การวางแผนลาออกครั้งนี้ได้เล่าเหตุผลให้ ผอ. คนปัจจุบันรับทราบมาตั้งแต่ต้น ซึ่งท่านพยายามปลอบและยื้อไว้ แต่ใจเก่งไม่อยู่แล้ว เมื่อหมดศรัทธาใครจะฉุดได้ ต้องขอบคุณ ผอ. ด้วยซ้ำที่ยอมเซ็นใบลาออกให้เป็นอิสระ
ทั้งนี้ ผอ. โรงเรียนเก่าก็ทราบ เงินเก็บที่มีได้นำไปลงทุนเตรียมซื้อที่ดินเพื่อลงหลักปักฐานกับอาชีพใหม่แล้ว ซื้อพันธุ์ ไถ ลงมือปลูกไปแล้ว ภายในระยะเวลาไม่ถึงปี ดังนั้น การลาออกไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบแน่นอน เพียงแต่พร้อมที่จะเดินจากในวันที่ทราบว่าอยู่ต่อไปก็สอนไม่ทันอยู่ดี
ปัญหาการเรียนออนไลน์
ครูเก่งทดลองสอนออนไลน์มาเป็นเทอมแล้ว มันได้ผลไม่ถึงครึ่ง จะให้เนียนอยู่รับเงินเดือนไปชิล ๆ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองไม่มีความสามารถ มันไม่ใช่ ไม่ได้หน้าด้านกินภาษีได้ขนาดนั้น คนที่ว่าเก่ง ไม่สู้คนใจเสาะ ที่ลาออกเพราะแสดงความรับผิดชอบ การที่ความสามารถเราไม่ถึง สอนในสถานการณ์ไม่ปกติไม่ได้ เราสละตำแหน่งและสละเงินเดือนเพื่อให้คนที่ทำได้ดีกว่ามาทำแทน มารับเงินเดือนแทน คือใจเสาะเหรอคะ ?
หากมีการรื้อระบบการประเมินใหม่
ถ้ามีการตรวจความถูกต้องย้อนหลัง รับรอง ค.ศ.2-3 ที่ทำเอกสารปลอม มีหลุดหลายคนแน่ ยึดเงินวิทยฐานะคืนได้หลายล้านแน่ และถ้าประเมินคุณภาพครูจากพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก คนเนียนมาเป็นครูทั้งที่ไม่ได้รักงานสอนมีร้องแน่นอน อยู่กี่ปีก็สอนไม่ได้ เผลอ ๆ จะถูกปลดออก ไม่ผ่านแม้แต่ครูผู้ช่วยด้วยซ้ำ
แล้วทีนี้จะเหลือแค่ครูที่สอนจริง เก่งจริง มีคุณภาพจริง ๆ เป็นแม่พิมพ์จริง ๆ ที่คู่ควรแก่ภาษีเท่านั้น
ขอขอบคุณที่มา : กระปุก